กระเจี๊ยบเขียว ดื่มน้ำก็ได้ ยิ่งเอาไปทำอาหารก็ดี บรรเทาได้สารพัด,กระเจี๊ยบเขียว ดื่มน้ำก็ได้ ยิ่งเอาไปทำอาหารก็ดี บรรเทาได้สารพัด
กระเจี๊ยบเขียว ผักที่สามารถนำมาต้มกินได้ มีน้ำใสๆลื่นๆ มีสีเขียวรสชาติอร่อย ทานคู่กับน้ำพริกก็ได้ ทำเป็นต้มยำทำแกงก็ดี แน่นอนว่าชื่อนี้ก็คือกระเจี๊ยบเขียวนั่นเอง กระเจี๊ยบเขียวนอกจากจะมีความอร่อย มีรสชาติที่ดีแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย บรรเทาได้สารพัด โดยที่ใครหลายคนไม่ทันได้นึกถึงเลยทีเดียว
ประโยชน์ของผักกระเจี๊ยบเขียว
1 รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 10 -15 ฝัก ตอนเย็นหรือก่อนนอน ในกระเจี๊ยบเขียวมีสารที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในโลหิตได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน และใครที่กำลังต้องการที่จะลดหน้าท้อง น้ำหนักตัว คุมน้ำหนัก ลดอาการท้องผูกได้
2 รับประทาน 10 – 15 ฝัก ทุกวัน กระเจี๊ยบเขียวมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นออกกำลังกาย และยังบำรุงตับอีกด้วย
3 รับประทาน 30 – 40 ฝัก มีส่วนช่วยในเรื่องของการแก้ท้องผูก นอกจากมีน้ำใสๆที่ช่วยในเรื่องของการทำให้อุจจาระอ่อนตัวขึ้น และยังมีกากใยอาหารที่สูง ทำให้ถ่ายท้องสะดวก
4 รับประทาน 5 ฝัก ก่อนอาหาร 3 มื้อ เมื่อนำผักมาต้มกับเกลือเล็กน้อย แล้วกิน จะช่วยแก้ได้สารพัด โดยเฉพาะในเรื่องของกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี
5 ลดในเรื่องของการเกิดกระเพาะอาหาร สำหรับใครที่ปวดท้องบ่อยๆ ลำใส้อักเสบ เมื่อทานกระเจี๊ยบเขียวไวๆก็จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้
6 รับประทานประจำ ในกระเจี๊ยบเขียวมีโฟเลตที่สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาของเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในครรภ์ คุณผู้หญิงควรที่จะรับประทานเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม
7 รับประทานสม่ำเสมอ มีส่วนช่วยในเรื่องของการเคลือบเเผลที่เกิดในกระเพาะอาหาร ใครที่ปวดท้องบ่อยแนะนำว่าให้ทานกระเจี๊ยบเขียวเป็นประจำจะดีมาก
วิธีในการรับประทานกระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวสามารถรับประทานแบบสดได้เลย โดยทำการล้างให้สะอาดแล้วแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ ก็สามารถทานได้เลย หรือจะนำไปแช่ในน้ำแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วนำมาดื่ม บางวิธีอาจจะนำไปตั้งไฟอ่อนๆ ให้พอสุกแล้วก็ทานกับน้ำพริกก็อร่อยไปอีกแบบ
คำแนะนำ : การรับประทานกระเจี๊ยบเขียวแบบสดจะได้คุณค่าทางโภชนาการอาหารมากที่สุด
,กระเจี๊ยบเขียว ผักที่สามารถนำมาต้มกินได้ มีน้ำใสๆลื่นๆ มีสีเขียวรสชาติอร่อย ทานคู่กับน้ำพริกก็ได้ ทำเป็นต้มยำทำแกงก็ดี แน่นอนว่าชื่อน...